Shade Grown Coffee วิถีของการอยู่ร่วมกันของกาแฟและป่า

Shade Grown Coffee วิถีของการอยู่ร่วมกันของกาแฟและป่า

 

เราอาจจะมีความเคยชินกับการชงกาแฟดื่มกันในทุกวัน ซึ่งหากย้อนกลับไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของกาแฟแล้วนั้นเมล็ดกาแฟที่ดีจะทำให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็มาจากผลของการเลือกปลูกกาแฟที่เกษตรกรเลือกใช้นั่นเอง และวันนี้บทความของเราก็จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับการปลูกกาแฟใต้ร่มเงาไม้ใหญ่อย่าง Shade Grown Coffee ที่ทำให้รสชาติของกาแฟมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงประโยชน์ที่น่าเหลือเชื่อของการปลูกกาแฟแบบนี้มาฝากกัน

 

Shade Grown Coffee การปลูกกาแฟใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ พร้อมคุณภาพที่ดีเกินใคร

 

Shade Grown Coffee คือ รูปแบบหนึ่งของการปลูกกาแฟภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ที่หลาย ๆ คนมักจะเห็นผลิตภัณฑ์ของการปลูกในลักษณะนี้นั่นก็คือ “กาแฟออแกนิค 100%” นั่นเองโดยการปลูกกาแฟในลักษณะนี้จะมีคุณภาพมากกว่าการปลูกกาแฟแบบกลางแจ้งและการปลูกกาแฟแบบ Partial Shade Grown Coffee ที่เป็นรูปแบบของการปลูกกาแฟในร่มเงาบางส่วน ซึ่งก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป

 

โดยการทำไร่แบบ Shade Grown Coffee นั้นเป็นการปลูกกาแฟที่ทำให้ตัวของต้นกาแฟไม่ได้โดนแสงแดดแบบเต็ม ๆ อีกทั้งยังเป็นการปลูกเอาไว้ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ จึงทำให้แสงแดดที่ส่องเข้ามานั้นมีความเหมาะสมต่อสายพันธุ์ของกาแฟในต้นไม้ที่ควรได้รับ โดยส่วนใหญ่แล้วกาแฟที่ปลูกในลักษณะนี้ก็จะเป็น “สายพันธุ์อาราบิก้า” ที่จะให้ผลผลิตช้าแต่เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพสูง

 

การปลูกกาแฟแบบนี้จะใช้ต้นทุนรวมไปถึงวิธีการดำเนินงานที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นการปลูกภายใต้สิ่งแวดล้อมในธรรมชาติโดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยธาตุอาหารที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ อีกทั้งภายในป่าก็ยังมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นซึ่งส่งผลทำให้ผลกาแฟสุกช้าและทำให้ช่วงเวลาในการสะสมแร่ธาตุอาหารนั้นมีมากยิ่งขึ้น

 

จึงเห็นได้ว่าเมื่อเรานำเอาผลเชอร์รี่ที่ได้จากการปลูกกาแฟแบบ Shade Grown Coffee ไปทำการแปรรูปแล้วจะทำให้กาแฟมีทั้งกลิ่นและรสชาติที่มีความซับซ้อนแต่แฝงไปด้วยคุณภาพที่คอกาแฟหลาย ๆ คนพร้อมที่จะหยิบเงินในกระเป๋าเพื่อที่จะได้กาแฟออแกนิคที่ใช้วิธีการปลูกแบบนี้มาครอบครอง

 

ข้อดีข้อเสียของการปลูกกาแฟแบบ Shade Grown Coffee

 

ซึ่งข้อดีของการปลูกกาแฟแบบ Shade Grown Coffee หรือการถูกกาแฟภายใต้เงาร่มไม้ใหญ่นั้นก็คือ การที่เขาจะให้รสชาติที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับธรรมชาติ รวมไปถึงยังมีความอร่อยในแบบที่คนชอบดื่มกาแฟนั้นการันตีให้เลยทีเดียว แถมการปลูกกาแฟด้วยวิธีนี้ยังมีอีกหนึ่งประโยชน์ที่มีความสำคัญเลยก็คือจะช่วยลดปัญหาของการเผาต้นไม้ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งยังเป็นรูปแบบของการเกษตรในระยะยาวที่จะช่วยบำรุงผืนป่าและทำให้ดินในบริเวณนั้นมีความอุดมสมบูรณ์

 

ซึ่งจะเป็นการปลูกกาแฟที่ใช้น้ำน้อยกว่าการปลูกกาแฟแบบกลางแจ้ง เนื่องจากภายในป่านั้นมีความชุ่มชื้นของดินค่อนข้างสูง รวมไปถึงภายในดินยังมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์และมีความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตที่เต็มที่ของต้นกาแฟได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ไม่ต้องใช้น้ำประปาในการปลูกมากเท่าไหร่ นอกเสียจากจะนำไปแปรรูปจึงจะนำเอาน้ำประปามาใช้ในกระบวนการนี้

แต่นอกจากข้อดีของการปลูกกาแฟในรูปแบบนี้แล้วนั้น เขาก็ยังมีข้อเสียที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการปลูกกาแฟในรูปแบบกลางแจ้งและรูปแบบโดนร่มเงาบางส่วนนั้น จะเห็นได้ว่าการปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงาไม้ใหญ่นี้ มีการดำเนินงานที่ค่อนข้างใช้เวลานาน อีกทั้งยังให้ผลผลิตช้าและไม่ได้มากเท่าที่ควร ซึ่งหากจะนำไปใช้ในระบบธุรกิจแบบต่อเนื่อง ก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยระยะเวลายาวนานกว่าจะทำการแปรรูปได้ แต่หากมองกันในเรื่องของคุณภาพที่ได้รับแล้วก็ถือว่ามีความคุ้มค่ามากเลยทีเดียว

 

ดังนั้นการปลูกกาแฟแบบ Shade Grown Coffee จึงเป็นวิธีการในการปลูกกาแฟที่มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ รวมไปถึงยังสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในระยะยาว ซึ่งถึงแม้การปลูกกาแฟในรูปแบบนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนานจนไปถึงการให้ผลผลิตที่ค่อนข้างช้าก็ตามที แต่เรื่องของคุณภาพและรสชาติรวมไปถึงกลิ่นที่ผู้ดื่มได้รับนั้นเป็นสิ่งที่มอบความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้ดื่มไปเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนรักกาแฟหลาย ๆ คนจึงเลือกดื่มกาแฟออแกนิคจากการปลูกแบบนี้โดยไม่เกี่ยงเรื่องราคา

Login