ซื้อเครื่องชงกาแฟอัติโนมัติ สำหรับออฟฟิศ ต้องรู้อะไรบ้าง?
วัฒนธรรมการดื่มกาแฟเป็นที่แพร่แหลายมากๆโดยเฉพาะกลุ่มพนักงาน ออฟฟิศ และยิ่งภาระงานที่เพิ่มมากขึ้นการคิด และมุมมองต่างๆที่ต้องการการแข่งขันตลอดเวลา เชื่อว่าพนักงานทุกคนก็ต้องการมีมุมพักผ่อน ผ่อนคลาย เพื่อเติมพลังขับเคลื่อนไอเดียดีๆ โดยมุมพักผ่อนในออฟฟิศจะขาด เครื่องชงกาแฟอัติโนมัติ ไปไม่ได้เลย นอกจากกาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่ให้รสชาติหอมอร่อยแล้ว ก็ยังมีคาเฟอีนที่ทำให้สมองตื่นตัวอีกด้วย เรามาดูหลักการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟระบบอัตโนมัติสำหรับออฟฟิศกัน
- สำรวจพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องชงกาแฟ วัดขนาดเค้าเตอร์สำหรับติดตั้งเครื่องชงกาแฟและขนาดเครื่องให้พอดี โดยจัดกาตำแหน่งปลั๊กไฟให้เหมาะสม และควรตั้งเครื่องชงกาแฟห่างจากผนังอย่างน้อย 10 เซนติเมตร
- สำรวจจำนวนการบริโภคกาแฟทั้งหมดในออฟฟิศ
- คำนวณจำนวนการใช้เมล็ดกาแฟต่อเดือน ตามสูตรดังต่อไปนี้ (จำนวนแก้วต่อวัน x 7 กรัม) /1,000 จะได้เป็นจำนวนกิโลกรัมที่ต้องสั่งซื้อเมล็ดกาแฟ
- ดูรายละเอียดประเภทของเครื่องว่า ใช้ได้กับเมล็ดกาแฟสดหรือไม่? เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติส่วนใหญ่จะมีเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัว เครื่องจะบดเมล็ดและชงแก้วต่อแก้ว (รูป และลิ้ง เครื่องชง crematic / crematic express)
- ต้องการเมนูนมด้วย เช่น คาปูชิโน่ ลาเต้ หรือ เครื่องชงอัตโนมัติเฉพาะกาแฟดำ
- ต้องการเมนู อื่นๆเช่น โกโก้ มอคค่า หรือไม่ หากต้องการเมนูเหล่านี้ต้องมองหาเครื่องชงที่มีถังใส่ผงละลายน้ำได้ (เครื่อง Maxxi)
- ระบบน้ำ ระบบน้ำภายใน หรือระบบน้ำภายนอก ระบบน้ำภายในหรือการเติมน้ำในถังน้ำของเครื่องชงกาแฟเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดเล็กหรือออฟฟิศที่มีแม่บ้านดูแลและสามารถคอยเติมน้ำได้ เนื่องจากถ้าหากปล่อยให้น้ำหมดแล้วใช้งานเครื่องอาจจะเสียหายได้ ส่วนระบบน้ำภายนอกจะเป็นการต่อถังน้ำขนาดใดก็ได้เข้ากับสายดูดน้ำเข้าเครื่อง หากเราใช้ถัง 5 ลิตร ก็ไม่จำเป็นต้องคอยเติมน้ำบ่อยๆ จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา
นอกจากเครื่องชงกาแฟอัติโนมัติ สำหรับมุมสร้างสรรค์ไอเดีย พักผ่อน ของพนักงานแล้ว การจัดประชุม และต้อนรับแขกภายนอกก็เป็นอีกจุดประสงค์หลักที่ควรใช้เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติเนื่องจาก สามารถทำได้จำนวนหลายแก้วในเวลาอันรวดเร็ว อยู่ที่ประมาณ 30 วินาที ต่อแก้ว
และสิ่งเหล่านี้ก็คือเรื่องที่น่ารู้ก่อนทำการซื้อเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติสำหรับออฟฟิศ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้แก่พนักงานแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความคุ้มค่าในการซื้อมาใช้งานในสำนักงานได้เป็นอย่างดี และการได้ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนตัดสินใจทำการเลือกซื้อก็จะทำให้คุณได้สินค้าที่มีมาตรฐานและเหมาะกับการใช้ในสำนักงานได้มากที่สุดนั่นเอง